แฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องลุ้นกันเลือดตาแทบกระเด็นกว่าที่ "หงส์แดง" จะเฉือนชนะ นิวคาสเซิ่่ล ยูไนเต็ด 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้เป็นอีกครั้งที่ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ฟอร์มน่าผิดหวังในช่วงครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้นผลงานของนักเตะทุกคนมีความกระเตื้อง ที่สำคัญ 3 ตัวสำรองที่ลงสนามในช่วง 20 นาทีสุดท้าย มีส่วนต่อชัยชนะในแมตช์นี้ นอกจากนี้นักเตะที่ต้องพูดถึงอย่างมากในเกมนี้ก็คือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นมีความเก๋าเกินไว ส่วนอีกรายก็คือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ที่สามารถสร้างผลกระทบให้กับเกมของ "หงส์แดง" และเป็นคนซัดประตูชัยด้วย ส่วนนักเตะที่ต้องบอกว่าโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพราะเกมรุกก็แย่เปิดบอลไม่แม่น เกมรับรั่วสุดๆ
ตัวจริง
อลีสซง : 6
อ่านจังหวะฟรีคิกของ คีแรน ทริปเปียร์ ได้ดี แต่จังหวะเสียประตูหมดสิทธิ์ป้องกันจริงๆ ยังคงโดดเด่นในการออกมาตัดบอลด้วยเท้า ช่วยทีมเปิดบอลเกมรุกสวนกลับเร็วได้ดี
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 5
จ่ายบอลพลาดส่งผลให้ทีมโดนสวนกลับและนำไปสู่การเสียประตูแรก จังหวะเปิดบอลริมเส้นไม่มีประสิทธิภาพ มีปัญหาในการเล่นเกมรับ
โจ โกเมซ : 6
คุมพื้นที่ไม่ค่อยดี โดน อเล็กซานเดอร์ อิซัค เล่นงานตลอด แต่ทำได้ดีในจังหวะใช้ร่างกายปะทะกับ คริส วู้ด เอาชนะการโหม่งในช่วงท้ายเกมก่อนบอลทะลักไปที่ ซาลาห์ และนำไปสู่ประตูชัยของ คาร์วัลโญ่
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 6
หลุดตำแหน่งในจังหวะที่ อิซัค ซัดประตูขึ้นนำ แต่ยังคงรับมือเกมรุกของ นิวคาสเซิ่ล ได้ดี เปิดบอลยาวสวยๆ ให้ผู้เล่นเกมรุกได้ 2-3 ครั้ง
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 5
พยายามเติมเกมรุกอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเหมือนแต่ก่อน ส่วนเกมรับยังไว้วางใจได้
ฟาบินโญ่ : 5
มีปัญหาเรื่องการรับมือในแดนกลางช่วงครึ่งแรก โหม่งบอลโฉ่งฉ่างทำให้ทีมเสียฟาวล์บริเวณใกล้ขอบเขตโทษ ครึ่งหลังทำฟาวล์หลายครั้งแต่ยังโชคดีที่ไม่โดนใบเหลือง พยายามยิงไกลแต่ห่างไกลเป้าหมาย
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 5
มีส่วนที่จะต้องโดนตำหนิจากจังหวะการเสียประตูแรก ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมแดนกลางได้เลย เต็มไปด้วยความทุ่มเทแต่ไร้ประสิทธิภาพ
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ : 8
เล่นได้อย่างโดดเด่น สร้างเกมได้ดีมีส่วนเกือบทำให้ ดิอาซ ยิงประตูได้ ฟอร์มครึ่งหลังสุดยอดมากๆ ทุกครั้งที่ได้บอลสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับนักเตะ “สาลิกาดง” เป็นคนส่งบอลให้ ซาลาห์ ก่อนที่ “บังโม” จะถวายพานให้ ฟีร์มีโน่ ยิงตีเสมอ
หลุยส์ ดิอาซ : 7
ยังคงเป็นผู้เล่นเกมรุกที่สำคัญของทีมเสมอ เกือบยิงประตูให้ทีมในช่วงครึ่งแรก นอกจากนี้ความเร็วและความคล่องตัวของเขาทำให้เกมรับของ นิวคาสเซิ่ล จับทางไม่อยู่ ได้ซัดในเขตโทษแต่บอลแฉลบกองหลังเข้ามือ นิค โป๊ป
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ : 7
ครึ่งแรกมีโอกาสส่งบอลเหนือชั้นให้ ดิอาซ แต่ดันยิงข้ามคาน ยังคงมีประโยชน์ในเรื่องการสร้างโอกาส ที่สำคัญยังเป็นคนยิงประตูตีเสมอให้ทีม
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 7
โดนแท็กติกประกบติดหนึบจนเล่นไม่ออกอีกครั้ง ส่วนครึ่งหลังพัฒนาฟอร์มการเล่นได้ดี วิ่งฉีกหนีตัวประกบได้ตลอด และเป็นคนแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ จากนั้นก็มีส่วนในการส่งบอลให้ คาร์วัลโญ่ ซัดประตูชัย
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
เจมส์ มิลเนอร์ (แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 71) : 7
ลงมาทำหน้าที่ตำแหน่งแบ็กขวาแทนเทรนต์ได้ดี ช่วยทำให้เกมรับแน่นขึ้น และเป็นคนเปิดลูกเตะมุมช่วงท้ายเกมจนทำให้ทีมทำประตูที่สองได้สำเร็จ
คอสตาส ซิมิคาส (แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น. 71) : 6
ช่วยในจังหวะการเล่นเกมรุกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โหม่งได้น่าผิดหวังในจังหวะเปิดบอลทางริมเส้นของ มิลเนอร์ แต่มีความขยันจนช่วยให้ทีมได้ 3 คะแนน
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (แทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น. 71) : 7
ได้รับโอกาสอีกครั้ง และไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะตั้งแต่ลงสนามมาก็ป่วนเกมรับของทีมเยือน มีส่วนกับการเล่นเกมบุก ความสามารถเฉพาะตัวโดดเด่น ยิงประตูชัยได้อย่างเฉียบคมแม้อยู่ในสภาวะกดดัน