วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุด 7 เซียน ประกาศตั้งท้องแล้ว ด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ ทำแฟนกีฬาต่างยินดีเป็นจำนวนมาก
วันที่ 9 มิ.ย. 65 “กัปตันกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ เปิดเผยข่าวดีสุดพิเศษผ่านงานเสวนา “Mommy’s Journey เส้นทางนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สู่การเป็นคุณแม่มือใหม่” ที่ห้องประชุมชั้น 6 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ในช่วงสายของวันนี้ หลังประสบความสำเร็จในการมีบุตรด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โดยในงานดังกล่าวยังมี “นายแพทย์ธนิก โชคจิรวัฒน์” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์ นรีเวชกรรมเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, “นายแพทย์กิตติ วงษ์กิติโสภณ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์นรีเวชกรรมศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ และ “แพทย์หญิงพิมพ์ชนก บุษกรเรืองรัตน์” ผู้จัดการสถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา ร่วมงานเสวนาในครั้งนี้ด้วย
โดยทางกัปตันกิ๊ฟได้เปิดเผยในงานว่า “หลังคัดโอลิมปิกที่ผ่านมา ก็วางแผนที่จะมีลูกอย่างจริงจัง ก็เริ่มเข้ามาปรึกษาคุณหมอธนิก เพราะตนเองก็อายุเยอะแล้ว ก็เลยไม่อยากจะเสียเวลา แต่ด้วยความบังเอิญ ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเข้ามาปรึกษา ในช่วงแข่งขันรายการสุดท้ายที่โคราช กิ๊ฟท้องเองโดยธรรมชาติ แต่เรามาทราบหลังจากแข่งเสร็จแล้ว เราเองพอทราบก็รีบเข้ามาปรึกษาคุณหมอ แต่ว่าด้วยความที่เราไม่ได้ดูแลตัวเอง หรืออาจจะเป็นด้วยตัวเราเองมีปัญหาด้วย ก็ทำให้น้องหลุดไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้นจึงมาปรึกษาคุณหมอ และตรวจร่างกายตัวเองอย่างละเอียด จึงทราบว่าตัวเรามีปัญหาในเรื่องของมดลูก และเรื่องอายุทำให้มีผลทำให้มีบุตรยาก คุณหมอเลยแนะนำให้ใช้เทคโนโลยี IVF แบบใหม่เป็นตัวช่วยให้มีบุตรได้เร็วขึ้น
พอมาถึงตอนที่ทราบว่าตอนที่ได้ทราบว่าตั้งท้องสำเร็จแล้ว น้องแข็งแรงดีนั้นอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลย ด้วยความที่เราเคยผิดหวัง เสียใจมาแล้ว พอเราทราบข่าวดีจากคุณหมอ เราเลยรู้สึกว่าเราต้องดูแลเขาให้ดี เพราะก่อนหน้านี้เราโทษตัวเองมาตลอด แต่พอได้มาคุยกับคุณหมอที่พยายามเปลี่ยนความคิดเราให้เป็นพลังบวกมากขึ้น ว่าทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครกำหนดธรรมชาติได้ การที่ผ่านมาถึงตรงนี้ได้ กำลังใจสำคัญที่สุด ต้องขอบคุณคนรอบข้าง และสามีที่คอยเป็นกำลังใจมาโดยตลอด นอกจากนั้น “หน่อง” ปลื้มจิตร์คอยดูแลเป็นเหมือนคุณพ่อคนที่สองมาโดยตลอด
อยากฝากถึงคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ กำลังใจ เราต้องไม่ท้อ ตัวเราเองหลังจากเสียน้องไปในครั้งแรก เราบอกตัวเองเลยว่า เราจะต้องไม่เสียใจ ไม่จมอยู่กับเรื่องนั้น เขาจะต้องกลับมาอยู่กับเรา และพอกำลังใจเราดี ทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำ ICSI ในครั้งแรกเลย ซึ่งโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในครั้งแรกเลยนั้นก็ค่อยข้างน้อย ต้องขอขอบคุณคุณหมอธนิก และผู้เกี่ยวข้องทุกๆ ท่านในโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ด้วย”.