รมว.ท่องเที่ยวนำทัพประกาศนับถอยหลังประวัติศาสตร์ "ไทย"เจ้าภาพ "โมโตจีพี"
-
- Posts: 403
- Joined: Fri Apr 29, 2022 1:17 pm
รมว.ท่องเที่ยวนำทัพประกาศนับถอยหลังประวัติศาสตร์ "ไทย"เจ้าภาพ "โมโตจีพี"
มอเตอร์สปอร์ตไทยสุดคึก รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" ประกาศนับถอยหลังสู่การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก "โมโตจีพี" ที่หวนกลับมาจัดในประเทศไทย แข่งขันที่"บุรีรัมย์" เผยจะนำคณะลงพื้นที่ตรวจงานครั้งสุดท้ายก่อนคิกออฟ
ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ กรุงเทพ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน ทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย, จังหวัดบุรีรัมย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) กรมการขนส่งทางบก, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน), และ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกันแถลงข่าว นับถอยหลังการจัดการแข่งขัน จักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ"โมโตจีพี" ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022" (OR THAILAND GRAND PRIX 2022) แข่งขันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันเป็นปีที่ 3 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงว่า เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ จะเข้าสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ต่อการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก " โมโตจีพี" ในชื่อรายการ "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022" (OR THAILAND GRAND PRIX 2022) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไทยและคนไทย ขอให้ความมั่นใจว่า ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมเกิน 100% ต่อการทำหน้าที่ เจ้าภาพ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีกำหนดการในการนำคณะทำงานลงพื้นที่ ตรวจความพร้อมครั้งสุดท้าย ก่อนเริ่มงานวันที่ 28 กันยายน เพื่อย้ำความพร้อมครั้งสุดท้าย ก่อนจัดการแข่งขัน
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เปิดพาวิลเลี่ยนภายใต้แนวคิด Amazing Thailand Festival at ThaiGP ศูนย์รวมข่าวสารด้านการท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่สื่อสารไทย-อังกฤษคอยให้บริการกับนักท่องเที่ยวตลอด 3 วันของการจัดงาน แบ่งเป็นโซนต่างๆอาทิ โซนเที่ยวไทย 5 ภาค, โซน Sport Event สนุกกับกิจกรรมกีฬาในรูปแบบเกม Interactive ที่ทันสมัย เช่น มาราธอน, ไตรกีฬา, จักรยานทางไกล ฯลฯ
ส่วนถ้วยรางวัลชนะเลิศ ออกแบบสื่อถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แสงอาทิตย์ลอดช่อง 15 ประตู ของปราสาทหินพนมรุ้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังของ จ.บุรีรัมย์ และด้านบนของฐานคือลวดลาย บนแทร็กของ สนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ผสมผสานตัวละครหนุมานที่ใช้ในสื่อประชาสัมพันธ์ของ ThaiGP โดยหนุมานเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความรวดเร็ว ว่องไว เปรียบเสมือนการแข่งขันโมโตจีพีที่เป็นกีฬาแห่งความเร็วเช่นกัน
ธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในฐานะที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าบ้านในการจัดการแข่งขัน "โมโตจีพี"เป็นปีที่ 3 ในครั้งนี้ จังหวัดยังคงรักษามาตรฐานให้งานที่กำลังจะมาถึง มีความสมบูรณ์แบบที่สุด มีการนำของดีบุรีรัมย์ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้ายอัคนีผลิตภัณฑ์จากชุมชน อาหารของฝากขึ้นชื่อและงานฝีมือมากมาย เพื่อต้อนรับผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังมีในการบริการด้านข้อมูลสำคัญต่างๆสำหรับผู้เข้าชมงานโมโตจีพี
นอกจากจะมีอาสาสมัครและจิตอาสานับพันคน ที่ดูแลด้านต่าง ๆ ในปีนี้ยังได้จัดเตรียม Line Official, Website 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าแพลตฟอร์มต่างๆ และเช็กข้อมูลที่จำเป็นได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่าง เช่น เส้นทางเข้าออกสนามแข่งขัน จุดบริการรถรับส่ง สถานที่จอดรถ ผังของงาน ข้อมูลที่พัก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความเชื่อมั่นและสร้างความประทับใจให้มากที่สุด
"ในปีนี้เรายังมีไฮไลต์สำคัญ คือโครงการนำร่องท่องเที่ยววิถีชุมชนหมู่บ้านนกกระเรียนพันธุ์ไทย ชุมชนบ้านสวายสอ บุรีรัมย์ มีมัคคุเทศก์นำเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน พักโฮมสเตย์ ทำโฮมสปาภูมิปัญญาชาวบ้าน รับประทานอาหารจากเถียงนาเชฟเทเบิ้ล และช้อปปิ้งของพื้นถิ่นผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ชาวบุรีรัมย์ทุกคนร่วมใจกันนำเสนอและหวังว่าจะเป็นต้นแบบ Buriram Model ในการให้ชุมชนอื่น หมู่บ้านอื่นของไทยได้นำไปเป็นต้นแบบให้เกิดการพัฒนา วิถีชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนได้อย่างแน่นอน "ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าว
จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ในฐานะ Title Sponsor ผู้สนับสนุนมอเตอร์สปอร์ตไทย กล่าวว่า ในปีนี้โออาร์ จัดเตรียมกิจกรรมสุดพิเศษและสิทธิพิเศษมากมาย พร้อมต้อนรับแฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและต่างชาติตลอดระยะเวลา 3 วัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์ บูธจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือ OR การจำหน่ายของที่ระลึกสุดพิเศษใน MotoGP Limited Edition บริเวณ OR Pavilion
กิจกรรมมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก Blue Card ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด ติดขอบสนาม โดยใช้เพียง 5 คะแนน แลกรับส่วนลด 25% สำหรับซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน OR THAILAND GRAND PRIX 2022 และที่พิเศษสุดสำหรับปีนี้ โออาร์ ได้เตรียมโซนพิเศษสำหรับแสดงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Bike) พร้อมพื้นที่ไว้สำหรับทดลองขับขี่ อีกด้วย
สุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า สำหรับการแข่งขัน Moto GP 2022 “เครื่องดื่มตราช้าง” ได้เตรียมกิจกรรมที่สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ไว้ตั้งแต่เข้าสนาม โดยจัดเตรียม Chang Shuttle Station รับ-ส่ง ฟรี นอกจากนี้ยังเตรียม Chang House เอาใจแฟนความเร็วให้สามารถชมถ่ายทอดสดบนจอ LED ขนาดใหญ่ และ Chang Music Connection วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พบกับ สล็อตแมชชีนและ โจอี้บอย ส่วนวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม หลังจากได้ชมศึกมวยไทย วิถีถิ่นไทยแล้ว ทาง“ช้าง”ยังมีคอนเสิร์ตให้แฟน ๆได้ร่วมสนุกกับศิลปิน "กระต่าย พรรณนิภา "และปิดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมด้วยคอนเสิร์ต "โอ๊ต ปราโมทย์ " สุรพล กล่าว
แฟนความเร็วที่สนใจ ซื้อบัตรชมการแข่งขันได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือซื้อออนไลน์ได้ที่ www.allticket.com ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chang Circuit Buriram พิเศษสุดกับบัตรเข้าชมโซนกิจกรรม (Admission Ticket) ราคา 100 บาท/วัน หรือ 3 วันในราคา 200 บาท ผู้ถือบัตรนี้ไม่สามารถเข้าชมการแข่งขันในสนาม แต่เข้าร่วมกิจกรรมใน OR Thailand Granprix Expo บริเวณด้านหน้าสนาม ทั้งชม ช้อป ชิม ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ในเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตที่เกิดขึ้นโดยรอบ เช่น คอนเสิร์ต, มวย รวมทั้งกิจกรรม Meet & Greet นักบิดโมโตจีพีชื่อดัง ที่จัดโดยค่ายรถจักรยานยนต์และทีมแข่ง
อนึ่งการเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพี ของประเทศไทย ครั้งแรก คือ "โมโตจีพี 2018" สนาม 15 รายการ "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ " แข่งขันตุลาคม 2018 ครั้งนั้นมียอดผู้ชมตลอดทั้ง 3 วัน 222,535 คน มีเงินสะพัด 3.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์ 2,470 ล้านบาท และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น ขอนแก่น, สุรินทร์, นครราชสีมา รวม 630 ล้านบาท ส่วน โมโตจีพี 2019 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จัดขึ้นในเดือนตุลาคม มียอดผู้ชมตลอดทั้ง 3 วัน กว่า 230,000 คน เติบโตจากปี 2018 เฉลี่่ย 2% รายได้ทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในพื้นที่การแข่งขัน และต่อประเทศไทย มากกว่า 3,100 ล้านบาท